Hot Topic!
จับให้มั่นคั้นให้ตายกันเสียที
โดย ACT โพสเมื่อ Jun 14,2017
คอลัมน์ เปลวสีเงิน คนปลายซอย: จับให้มั่นคั้นให้ตายกันเสียที
- - สำนักข่าว ไทยโพสต์ วันที่ 14/06/60 - -
plew_seengern@yahoo.com plewseengern@gmail.com
บ่อยมั้ยที่ตำรวจถูกย้ายเพราะข่าว ซื้อขายเก้าอี้?
นึกไม่ออก! เอาเท่าที่จำได้...นายพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) อดีตนายตำรวจใหญ่ ยศพลตำรวจโท
ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนโดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง
ถูกถอดออกจากยศตำรวจและเรียกคืนเครื่องราชอิส ริยาภรณ์ทุกชั้นตรา
ตอนนี้อยู่ในคุก ที่นึกออกมีแค่นั้น มาล่าสุดก็ผลสืบเนื่องจากการแฉของนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส.นี่แหละครับประเด็นน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ตร.๒๘๗/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๒ มิถุนายน ให้ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชา การตำรวจภูธรภาค ๘ (ผบช.ภ.๘) มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม
ในวงการตำรวจว่ากันว่า พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ใกล้ชิดกับ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย
ขณะที่ นายวิทยา ก็ใกล้ชิดกับกำนันสุเทพ การที่ ผบ.ตร.สั่งย้าย ผบช.ภ.๘ เพราะเหตุนายวิทยาออกมาแฉเรื่องซื้อขายตำแหน่ง มันจึงไม่ใช่เรื่องปกติวิสัย
อย่างที่เกริ่นไว้ ก่อนนี้มีข่าวมาเป็นระยะๆ เรื่องซื้อ ขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ทุกครั้ง ตำรวจน้อยใหญ่พากันปฏิเสธว่า
"ไม่มี"หนำซ้ำมีการฟ้องกลับคนที่ออกมาให้ข่าว แต่คราวนี้ทำไมถึงกลับตาลปัตรหรือเพิ่งจะมีซื้อเก้าอี้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๘ เป็นครั้งแรก
การย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท เป็นการยอมรับว่ามีการซื้อเก้าอี้
หรือย้ายเพราะเหตุอื่น หรือส้มหล่น เตะหมูเข้าปากหมา ถ้าย้ายเพราะปล่อยให้มีการซื้อขายตำแหน่งตั้งแต่ ผู้บังคับการ ยันสารวัตร จริง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็ต้องมีคำตอบว่า แล้วนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคอื่นๆ โรงพักอื่นๆ ทั่วประเทศ จะสั่งย้ายทั้งหมดหรือไม่
หากเรียงลำดับเหตุการณ์ก็พอเห็นความเคลื่อนไหว นายวิทยา ออกมาอีกรอบ ภาษานักเลงเขาเรียกว่าเอาคืน "...นครบาลซื้อขายราคาแพงกว่าที่อื่นทั่วประเทศ โดยสิ่งที่เกิดเหตุเป็นการโยกย้าย ผบช.ภ.๘ ก็เป็นข้อมูลของ พล.ต.อ. จักรทิพย์
แต่เอากันจริงๆ โยกย้ายแล้วจะมีการปฏิรูปตำรวจต่ออย่างจริงจังหรือ ถ้าตำรวจภูธรภาค ๘ มีการวิ่งเต้น นครบาลก็มีมากกว่านี้เพิ่มอีกเป็น ๒ เท่า คนที่รู้ตัวเลขดีสุดน่าจะเป็น ผบ.ตร.
การย้าย ผบช.ภ.๘ หากมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสะสาง แต่อย่าคิดว่าเรื่องจะจบ จากนี้จะจัดการต่อหรือไม่ เพราะเรื่องซื้อขายตำแหน่งไม่มีผู้เสียหาย ไม่มีใครกล้าเปิดตัว โดยเฉพาะในนครบาล แล้วจะหมกเม็ดปัญหาตำรวจไว้ใต้พรมแบบนี้ตลอดหรือ พอถึงฤดูกาลโยกย้าย ก็สั่งย้ายกันที จะปล่อยให้จบแบบนี้หรือ...
...มีตัวใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่คนวงการตำรวจรู้จักชื่อกันหมด เอาเป็นว่าประเทศนี้ พลตำรวจตรี ใหญ่กว่าพลตำรวจเอก..."
ไม่ใช่เรื่องโจ๊ก แต่เรื่องจริง!ครับ...ย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ในมุมส่วนกลาง ถือเป็นส้มหล่น แต่ในมุม กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๘ ถือเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา
การออกมาแฉอีกรอบ จึงเรียกได้ว่าเป็นการเอาคืน นครบาลซื้อขายเก้าอี้เป็น ๒ เท่าก็คูณเข้าไปดู ก่อนนี้ นายวิทยา บอกว่าระดับผู้กำกับการมีการวิ่งเต้นเงินสูงตั้งแต่ ๕ ล้าน ไปถึง ๗ ล้าน ระดับสารวัตรราคาอยู่ที่ ๑.๕ ล้านถึง ๒ ล้านบาท
นั่นเป็นราคาตั๋วเด็กไม่ใช่ตั๋วเด็กสวนสนุก สูงไม่เกิน ๑๐๐ เซนติเมตรเข้าฟรีนะครับ แต่หมายถึงเด็กนาย
ถ้าเอาตามที่ นายวิทยา ว่า คือคูณ ๒ เข้าไป ตำแหน่งซื้อขายก็จะเคาะกันประมาณนี้
ระดับผู้กำกับ ๑๐ ล้านถึง ๑๔ ล้านบาทส่วนสารวัตร ๓-๔ ล้านบาท นี่ราคาตั๋วเด็กนะครับ ส่วนนักวิ่งนายไม่รักก็อีกราคา ยังไม่รับเก้าอี้ที่ต้องประมูลจริงเท็จประการใด เห็นที พล.ต.อ.จักรทิพย์ ต้องทำให้กระจ่าง
หากจำกันได้ โฆษก สตช.เคยแถลงไว้เมื่อครั้งโยกย้ายนายตำรวจประจำปีว่า หากเกิดความผิดพลาดในการโยกย้าย ผบ.ตร.พร้อมที่จะรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หรือจะให้พลตำรวจตรี รับผิดชอบที่จริงมันเป็นเรื่องน่าเบื่อ!พูดกันมานานแล้วว่า มีการซื้อขายเก้าอี้ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่...เหมือนเชื้อดื้อยา พูดไปก็เท่านั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นอกจากคนพูดถูกฟ้องหมิ่นประมาท "ลุงตู่" เองก็เบื่อครับ!วานนี้ (๑๓ มิถุนายน) ลุงตู่ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงเรื่องนี้
"...ผมก็รับเรื่องร้องเรียนมาบ่อยครั้ง ครั้งนี้จะได้จับให้มั่นคั้นให้ตายกันเสียที ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ขอบคุณนักการเมืองที่ให้ข้อมูลการซื้อขายตำแหน่ง ก็ให้ตรวจสอบทั้งหมด
ตอนนี้ก็มีการย้าย ผบช.ภ.๘ เข้ามาประจำศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพื่อสอบสวนในทุกๆ ประเด็นซึ่งมีข้อมูล ในทุกประเด็นมีข้อมูลพอสมควร แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ มีผลกระทบในเรื่องของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร
แต่ในส่วนของทหารอย่างไรผมยืนยันว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เพราะไม่ได้ มันต้องโตมาตั้งแต่เด็กตามช่องทางที่กำหนดไว้ แต่ข้าราชการกับตำรวจมันมีกฎหมายคนละฉบับกัน
กำลังให้ไปแก้ปัญหาว่าจะดูแลข้าราชการทุกกลุ่มหน่วยงานได้อย่างไร เพื่อป้องกันการทุจริตคิดประพฤติมิชอบ ให้ได้เป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน ก็ทำมาตลอด หลายอย่างประเมินมาดีหมด พอครั้งนี้ผมให้ประเมินใหม่ออกมาไม่ดี กลายเป็นว่ารัฐบาลนี้ทำไม่สำเร็จหรือเปล่า เนื่องจากเราเอาจริงเอาจังแล้วข้าราชการจึงต้องไปปรับปรุง ถ้าทำไม่ได้ก็ว่ากันอีกที
เป็นการเปลี่ยนแปลงปฏิรูประบบราชการ เมื่อมันเปลี่ยนแปลงมันก็ต้องปัจจัยหลายอย่าง การประเมินก็ต้องออกมาคนละอย่าง ก็ต้องไปแก้ ตรงไหนไม่ผ่านต้องลงโทษปรับปรุงอะไรหรือไม่ ข้อสำคัญต้องช่วยกันสร้างความคิดใหม่ๆ ให้ข้าราชการ..."
ตำรวจมีจุดอ่อนเยอะครับ แตะไปตรงไหนก็เจอ แต่แทบไม่มีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเองก็รู้ว่ามันปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
แล้วจะทำอย่างไร?ลำพังการแก้ไขปัญหาที่ทำอยู่ในขณะนี้ ยากที่จะได้ผล ก็วกกลับไปเรื่องที่ว่า
หากไม่ต้องการได้ยินคำถามที่ว่า "มีตำรวจไว้ทำไม?" ก็มีทางเลือกเดียวคือ "ปฏิรูปตำรวจ"
รายละเอียดต้องทำแบบไหน อย่างไร ใครเป็นเจ้าภาพ พูดกันไปเยอะแล้ว อยู่ที่จะนับหนึ่งเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
เริ่มนับหนึ่งเมื่อไหร่ ประชาชนก็จะเริ่มไว้เนื้อเชื่อใจเมื่อนั้น
ถามว่ามีหรือไม่โรงพักที่ปลอดจากการซื้อขายเก้าอี้ มีนะ! มีไม่น้อยด้วย แต่ต้องไกลปืนเที่ยงหน่อย! ประเภทกลางค่ำกลางคืน สามารถไปตั้งวงเหล้าบนถนนหน้าโรงพักได้ โดยไม่ต้องกลัวรถเหยียบ
เป็นท้องที่เงียบขนาดไหน ก็คิดเอาทั้งหมดนี้จึงไม่ได้หมายความว่า ตำรวจทั้งหมดเป็นคนเลว ตำรวจดีๆ มีอยู่เยอะ
เพียงแต่เขาเหล่านั้นเสียงไม่ดังพอส่วนพวกนักวิ่ง... เมื่อ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ซึ่งถือว่ามีอำนาจสูงสุดในการแก้ปัญหา ถึงขนาดเอ่ยปากว่า ครั้งนี้จะได้จับให้มั่นคั้นให้ตายกันเสียที
ก็ถือเป็นบุญของประเทศ ที่ปัญหาตำรวจซึ่งหมักหมมมานานจะได้รับการแก้ไข
ประชาชนรอดูอยู่ครับ "ลุงตู่".
อ่านเพิ่มเติมที่ : www.thaipost.net/